ระแนงเป็นส่วนประกอบสำคัญในการตกแต่งสำหรับการบังแสง กันตก หรือใช้ตกแต่งในลักษณะการเรียงไม้เป็นแผงๆ ตามแนวยาวบนพื้น ผนัง ฝ้า และชายคา วัสดุที่นำมาใช้ทำเป็นระแนงก็มีให้เลือกหลากหลาย ซึ่งแต่ละประเภทจะมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน การเลือกวัสดุที่เหมาะสมจึงเป็นเรื่องสำคัญ วัสดุระแนงที่นิยมใช้
1. ระแนงไม้จริง
ข้อดี: แข็งแรง ทนทาน โดยเฉพาะไม้เนื้อแข็ง ไม่บิดง่าย และทนทานต่อสภาพอากาศ
ข้อเสีย: ต้องทำการทาน้ำยาเคลือบผิวไม้ทุกๆช่วงเวลา เพื่อป้องกันแมลงและยืดอายุการใช้งาน นอกจากนี้ ไม้จริงมีราคาแพง
2. ระแนงไม้เทียม
ข้อดี: มีความแข็งแรง ทนทาน ไม่มีปัญหาเรื่องแมลง ปลวก หรือมอด สามารถขัดและทำสีใหม่ได้
ข้อเสีย: ไม่เหมาะกับการยึดติดโครงสร้างที่มีการเคลื่อนไหว และหากมีการถลอกจะเห็นสีเนื้อด้านในที่เป็นสีปูนอย่างชัดเจน
3. ระแนงไม้พลาสติกคอมโพสิต (WPC)
ข้อดี: ติดตั้งได้เร็ว ได้งานที่เนี๊ยบ ไม่ต้องทำสี
ข้อเสีย: สีบางตัวอาจมีการซีดลงหลังใช้งาน และในช่วงแรกหากมีการถลอก ไม่สามารถทำสีได้เพราะเป็นพลาสติก
4. ระแนงไม้เหล็ก
ข้อดี: ทนทาน แข็งแรง หาช่างติดตั้งง่าย และสามารถทำสีได้ตามต้องการ
ข้อเสีย: ต้องทำการทาสีป้องกันการเกิดสนิมก่อนทำสีจริง และหากใช้เหล็กที่มีความหนามาก จะมีน้ำหนักมาก
5. ระแนงไม้ไวนิล
ข้อดี: ทนทานต่อแสงแดดและสภาวะอากาศ ไม่บิดงอ ไม่ลามไฟ ไม่ต้องทำสี น้ำหนักเบา ติดตั้งง่าย
ข้อเสีย: ยืดหดตัวได้มาก การติดตั้งต้องเว้นร่อง และหากมีแรงกระแทกอาจแตกร้าวได้
การเลือกใช้วัสดุระแนงที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญ เพราะแต่ละประเภทมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน ดังนั้น ควรพิจารณาปัจจัยต่างๆ เช่น ความแข็งแรง ความทนทาน การดูแลรักษา และงบประมาณ เพื่อให้ได้ระแนงที่มีคุณภาพและเหมาะสมกับการใช้งานมากที่สุด